• Google

Google I/O 2024: AI ครองเวที! พลิกโฉมทุกบริการ สู่ยุค "Gemini Era" อย่างเต็มรูปแบบ

  • admin net
  • 20 May, 2025

Google I/O 2024: AI ครองเวที! พลิกโฉมทุกบริการ สู่ยุค "Gemini Era" อย่างเต็มรูปแบบ

ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วงการเทคโนโลยีทั่วโลกต่างจับจ้องไปยังงานประชุมนักพัฒนาประจำปีของ Google อย่าง "Google I/O 2024" ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ไฮไลท์สำคัญของงานในปีนี้ หนีไม่พ้นเรื่องของ "ปัญญาประดิษฐ์" หรือ AI ที่ Google ประกาศกร้าวว่าจะนำ AI เข้ามาเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนทุกผลิตภัณฑ์และบริการของตนเองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สะท้อนภาพอนาคตที่ Google เรียกว่า "Gemini Era" หรือยุคแห่ง Gemini ซึ่งเป็นชื่อโมเดล AI อัจฉริยะตัวเก่งของค่ายนั่นเอง

AI Overviews: เปลี่ยนประสบการณ์การค้นหาบน Google Search

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะได้สัมผัสโดยตรงคือ "AI Overviews" ใน Google Search หรือที่เราอาจคุ้นเคยกันในชื่อเดิมว่า Search Generative Experience (SGE) ฟีเจอร์นี้เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานจริงแล้วในสหรัฐอเมริกา และมีแผนจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกในอนาคตอันใกล้

AI Overviews ทำงานโดยใช้ AI สรุปข้อมูลจากหลายๆ แหล่งบนอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาแสดงเป็นคำตอบที่กระชับ ครอบคลุม อยู่ด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหา ลองนึกภาพว่าแทนที่เราจะต้องคลิกเข้าไปอ่านข้อมูลจากหลายเว็บไซต์เพื่อหาคำตอบที่เราต้องการ Google จะสรุปใจความสำคัญมาให้เราเลย ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทำให้ได้ข้อมูลที่ตรงประเด็นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการเปิดตัว ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูลที่ AI สรุปมาในบางกรณี ซึ่งทาง Google ก็รับทราบและกำลังเร่งปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ AI Overviews เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและน่าเชื่อถืออย่างแท้จริง

Gemini Model อัปเกรดครั้งใหญ่: ฉลาดขึ้น รอบด้านขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น

หัวใจสำคัญของ AI ทั้งหมดของ Google คือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ชื่อว่า "Gemini" ซึ่งในงาน I/O 2024 นี้ Google ได้ประกาศอัปเดตครั้งสำคัญหลายอย่าง:

Gemini 1.5 Pro: โมเดลรุ่นท็อปสุดที่เก่งกาจรอบด้าน ได้รับการปรับปรุงให้สามารถประมวลผลข้อมูล (Context Window) ได้มากถึง 2 ล้านโทเคน (Tokens) จากเดิม 1 ล้านโทเคน หมายความว่า Gemini 1.5 Pro สามารถทำความเข้าใจบริบทของข้อมูลที่ยาวและซับซ้อนมากๆ ได้ดีขึ้น เช่น การสรุปหนังสือทั้งเล่ม หรือวิเคราะห์โค้ดโปรแกรมขนาดใหญ่ ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานผ่าน Gemini Advanced (บริการแบบเสียเงิน) และสำหรับนักพัฒนาผ่าน API
Gemini 1.5 Flash: โมเดลน้องใหม่ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกว่า เร็วกว่า และประหยัดทรัพยากรมากกว่า Gemini 1.5 Pro เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วและมีปริมาณงานสูง เช่น การทำแชทบอท หรือการสรุปข้อมูลแบบเรียลไทม์ แม้จะเล็กแต่ประสิทธิภาพยังคงสูงใกล้เคียงรุ่นพี่
Gemini Nano with Multimodality: เป็นโมเดลขนาดเล็กที่สุดในตระกูล Gemini ออกแบบมาเพื่อทำงานบนอุปกรณ์พกพาโดยตรง (on-device) เช่น สมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ความสามารถใหม่ที่น่าตื่นเต้นคือ "Multimodality" ที่ทำให้มันสามารถเข้าใจข้อมูลได้ทั้งข้อความ เสียง และที่สำคัญคือ "ภาพ" ได้โดยตรงบนเครื่อง เริ่มนำมาใช้กับโทรศัพท์ Pixel ก่อน ซึ่งจะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การใช้ AI วิเคราะห์สิ่งที่เห็นผ่านกล้อง หรือการค้นหาข้อมูลจากรูปภาพในเครื่องโดยไม่ต้องอัปโหลดขึ้นคลาวด์
Project Astra: ผู้ช่วย AI แห่งอนาคต ที่มองเห็นและเข้าใจโลกเหมือนมนุษย์

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สร้างเสียงฮือฮาในงานคือการเปิดตัวเดโม "Project Astra" ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของ Google เกี่ยวกับผู้ช่วย AI อัจฉริยะแห่งอนาคต ลองจินตนาการถึงผู้ช่วยที่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวเราผ่านกล้องสมาร์ทโฟน เข้าใจสิ่งที่เราพูด และโต้ตอบกับเราได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบเรียลไทม์ Project Astra สามารถจดจำวัตถุ ช่วยเราค้นหาสิ่งของที่วางลืมไว้ หรือแม้แต่ตอบคำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่เรากำลังมองเห็นอยู่ได้ แม้จะยังเป็นเพียงโครงการต้นแบบ แต่ก็แสดงให้เห็นทิศทางที่น่าตื่นเต้นว่า AI จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น

เครื่องมือสร้างสรรค์ด้วย AI: ปลดปล่อยจินตนาการไร้ขีดจำกัด

Google ยังคงเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือ Generative AI สำหรับสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ:

Veo: โมเดล AI สำหรับสร้างวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 1080p จากคำสั่งข้อความ (text-to-video) ผู้ใช้สามารถอธิบายฉากที่ต้องการ ตัวละคร หรือสไตล์ภาพที่อยากได้ แล้ว Veo จะสร้างสรรค์วิดีโอออกมาตามนั้น เปิดโอกาสให้ผู้สร้างคอนเทนต์สามารถผลิตงานวิดีโอที่น่าสนใจได้ง่ายขึ้น
Imagen 3: โมเดลสร้างภาพจากข้อความ (text-to-image) รุ่นล่าสุด ที่ได้รับการปรับปรุงให้สร้างภาพได้สมจริง มีรายละเอียดสูงขึ้น เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น และที่สำคัญคือสามารถสร้างตัวอักษรภายในภาพได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่โมเดลรุ่นก่อนๆ ยังทำได้ไม่ดีนัก
"Gemini Era": AI สอดแทรกในทุกบริการของ Google

หัวใจสำคัญของงาน I/O ปีนี้คือการประกาศว่า Google กำลังนำ Gemini เข้าไปผสานและขับเคลื่อนฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ ในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของตนเองอย่างกว้างขวาง เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานในทุกมิติ:

Google Workspace (Gmail, Docs, Sheets, Slides): ผู้ใช้งานจะได้พบกับฟีเจอร์ "Help me write" (ช่วยเขียน), "Help me organize" (ช่วยจัดระเบียบ) และอื่นๆ อีกมากมายที่ขับเคลื่อนด้วย Gemini ทำให้การทำงานเอกสาร การจัดการอีเมล หรือการสร้างสไลด์นำเสนอเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
Android: Gemini จะกลายเป็นผู้ช่วย AI หลักบนระบบปฏิบัติการ Android สามารถเรียกใช้งานเป็นหน้าต่างซ้อนทับ (Overlay) บนแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อช่วยสรุปเนื้อหา สร้างข้อความ หรือตอบคำถามจากสิ่งที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอ
Google Photos: เพิ่มฟีเจอร์ "Ask Photos" ที่ให้ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพหรือวิดีโอในคลังภาพของตนเองด้วยคำถามที่เป็นภาษาธรรมชาติได้ลึกซึ้งและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น "ช่วยหารูปที่ฉันไปทะเลตอนพระอาทิตย์ตกดินหน่อย"
Android 15 Beta 2 และอื่นๆ

นอกเหนือจากเรื่อง AI แล้ว Google ยังได้ปล่อย Android 15 Beta 2 ให้นักพัฒนาและผู้ที่สนใจได้ทดลองใช้งานกันแล้ว โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น "Private Space" พื้นที่ส่วนตัวสำหรับเก็บแอปและข้อมูลที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง, การปรับปรุงระบบการแจ้งเตือน และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น

โดยสรุปแล้ว งาน Google I/O 2024 และข่าวสารจาก Google ในช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Google ในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI และการนำ AI มาปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ อย่างแท้จริง การมาถึงของ "Gemini Era" กำลังจะเปลี่ยนวิธีที่เราค้นหาข้อมูล ทำงาน สร้างสรรค์ และโต้ตอบกับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันไปอย่างสิ้นเชิง นับเป็นก้าวที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของวงการเทคโนโลยี

สวัสดีค่ะ! ฉันเป็นผู้ช่วยอัตโนมัติของ KTN Shop ยินดีให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของเรา คุณต้องการสอบถามอะไรเกี่ยวกับสินค้าบ้างคะ? 😊