Seagate Technology ร่วมกับ Microsoft Research ได้เปิดตัวฮาร์ดดิสก์รูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี
DNA Storage ซึ่งเป็นการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของดีเอ็นเอสังเคราะห์
สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มหาศาลในพื้นที่ขนาดเล็ก
เทคโนโลยี DNA Storage
- หลักการทำงาน: แปลงข้อมูลดิจิทัล (0 และ 1) เป็นลำดับเบส A, T, G, C ของดีเอ็นเอสังเคราะห์
- ความจุ: สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ถึง 1 เอกซะไบต์ (Exabyte = 1 ล้านเทราไบต์)
ในพื้นที่ขนาดเท่ากับกล่องไม้ขีดไฟ
- ความหนาแน่น: 1,000,000 เท่าของฮาร์ดดิสก์แบบแม่เหล็กแบบดั้งเดิม
- อายุการใช้งาน: สามารถเก็บรักษาข้อมูลได้นานถึง 10,000
ปี โดยไม่เสื่อมสภาพ
รูปแบบผลิตภัณฑ์
Seagate เปิดตัวผลิตภัณฑ์ DNA
Storage ในสองรูปแบบ:
- Seagate DNA Archive: สำหรับการเก็บข้อมูลระยะยาว (cold
storage) ความจุ 1 เอกซะไบต์
- ใช้สำหรับการเก็บถาวรและการสำรองข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่
- เหมาะสำหรับข้อมูลที่ต้องเก็บรักษาเป็นเวลานาน เช่น
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์หรือกฎหมาย
- Seagate DNA Rack: ระบบที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูล
ความจุ 10 เพตะไบต์ (Petabyte)
- ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลที่เข้าถึงบ่อยขึ้น
- มีเวลาอ่าน/เขียนที่เร็วกว่ารุ่น Archive
การเขียนและอ่านข้อมูล
- การเขียนข้อมูล: ใช้เทคโนโลยี CRISPR-Cas ในการสังเคราะห์สายดีเอ็นเอที่บรรจุข้อมูล
- การอ่านข้อมูล: ใช้เครื่องถอดรหัสพันธุกรรม (DNA
Sequencer) ขนาดเล็กและประหยัดพลังงาน
- ความเร็ว: การเขียนข้อมูล: 1TB ต่อวัน, การอ่านข้อมูล: 100GB ต่อชั่วโมง
ข้อดีหลัก
- ความทนทาน: ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
รวมถึงอุณหภูมิสูง/ต่ำ สนามแม่เหล็ก และรังสี
- ประหยัดพลังงาน: ไม่ต้องใช้พลังงานในการเก็บรักษาข้อมูล
ใช้พลังงานเฉพาะเมื่อมีการอ่าน/เขียนข้อมูล
- ความหนาแน่นสูง: ลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในศูนย์ข้อมูลลงอย่างมาก
- ความยั่งยืน: ลดการใช้วัสดุและพลังงานเมื่อเทียบกับระบบจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิม
การใช้งานที่เหมาะสม
- หน่วยงานรัฐบาล: จัดเก็บเอกสารสำคัญและข้อมูลทางประวัติศาสตร์
- หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์: เก็บข้อมูลวิจัยขนาดใหญ่
เช่น ข้อมูลจากเครื่องเร่งอนุภาคหรือกล้องโทรทรรศน์
- ศูนย์ข้อมูลคลาวด์: สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาวที่เข้าถึงไม่บ่อย
- บริษัทด้านการแพทย์: เก็บข้อมูลจีโนมและการทดลองทางการแพทย์